รางวัลเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี”
สภาพปัญหา แนวคิด
หรือแรงจูงใจในการจัดทำผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จที่เป็นประจักษ์
โรงเรียนเป็นระบบสังคมระบบหนึ่ง
ซึ่งหากเพียงแต่จะมีสถานที่สวยงาม มีหลักสูตรสถานศึกษาที่สมบูรณ์แบบ มีสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
สิ่งเหล่านี้จะไม่มีความหมายใด ๆ เลยหากบุคลากรทางการศึกษาไม่มีความสามารถที่จะใช้
หรือไม่มีความพึงพอใจ ขาดความตระหนักในหน้าที่ที่จะทำงานให้เกิดประโยชน์
เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนความงอกงามในสงการศึกษาที่ขึ้นอยู่กับบุคลากรที่ทำงานด้านการศึกษาซึ่งมีหลายฝ่าย
หลายหน้าที่ แต่ที่สำคัญที่สุดมี 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายครูผู้สอน
ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาไปสู่ความก้าวหน้า ทันต่อความเปลี่ยนแปลง
ตอบสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน สังคมจึงให้ความคาดหวังกับครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมาก
ว่าจะเป็นผู้ชี้นำทางปัญญาเป็นผู้นำพาสังคมไปสู่ความเจริญตามความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา
ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พุทธศักราช 2542 มาตรา 6
ที่กำหนดให้การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาพัฒนาคุณภาพคนไทย ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม
มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และ มาตรา 23
ที่ว่าโดยการจัดการศึกษานั้นต้องเน้นความสำคัญทั้งความรู้
คุณธรรมและกระบวนการเรียนรู้(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2544) ดังนั้นทั้งผู้บริหารและครูจึงจะต้องแสดงบทบาทและพฤติกรรมให้เป็นไปตามที่สังคมคาดหวัง
ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา
ได้เข้ารับการอบรม การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นเพื่อพัฒนาตนเอง และพัฒนางานในหน้าที่ให้เต็มขีดความสามารถ
มีความรักความศรัทธาในอาชีพ
ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจนับแต่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้รับราชการ พยายามทบทวนบทบาทหน้าที่ของตนเองเทียบเคียงกับแบบแผนในการปฏิบัติตนตามหลักธรรมาภิบาล
ประคองตนเองให้ดำรงตนอยู่ในกรอบคุณธรรม จริยธรรมและวินัยข้าราชการ
จากการที่บรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้สอนจนก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้บริหารสถานศึกษา
ที่มีบทบาทหน้าที่ในการบริหารจัดการสถานศึกษา
บังคับบัญชาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน การวางแผนการปฏิบัติงาน
การควบคุม กำกับ ดูแลเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการ การบริหารงานงบประมาณ
การบริหารงานบุคคล การบริหารงานทั่วไป
เพื่อให้การดำเนินงานของโรงเรียนเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
นโยบายและวัตถุประสงค์ของโรงเรียน ซึ่งได้กำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาโรงเรียนปรางค์กู่ไว้
ดังนี้
วิสัยทัศน์ของโรงเรียน (VISION)
โรงเรียนปรางค์กู่ มุ่งสู่มาตรฐานสากล
ทุกคนมีส่วนร่วม ศูนย์รวมภาษา พัฒนาสู่อาเซียน
ผู้เรียนน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
พันธกิจ (MISSION)
1. ส่งเสริมการนำระบบการประกันคุณภาพการศึกษามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
2. ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้มุ่งสู่อาเซียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. ส่งเสริมการนำสื่อ
นวัตกรรม เทคโนโลยี และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
4.
ส่งเสริมความสามารถของผู้เรียนด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา และอาชีพ
5.
ส่งเสริมผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และการอนุรักษ์ความเป็นไทยและวิถีพุทธ
6. ส่งเสริมการนำข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในการบริหารสถานศึกษา
7. ส่งเสริมให้บุคลากร
ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
8. ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในทุก
ๆ ด้าน อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง
9. พัฒนาสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เอื้อต่อการเรียนรู้
10.
ส่งเสริมการนำภาษาสากลมาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาสู่โรงเรียนมาตรฐานสากล
11.
บริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมและใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เป้าประสงค์ (GOALS)
1.
โรงเรียนปรางค์กู่มีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพ
มีบรรยากาศและวัฒนธรรมในการปฏิบัติงานแบบกัลยาณมิตร ร่วมสร้างสรรค์และรับผิดชอบ
นำระบบการประกันคุณภาพการศึกษามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
รวมถึงการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. นักเรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ มีนิสัยใฝ่เรียนรู้
มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์ มีความรู้สู่อาเซียน
3.
นักเรียนมีความสามารถด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา อาชีพ
และนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการเรียนรู้
4.
นักเรียนมีทักษะในการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีคุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยม และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย
5.
นักเรียนมีความสามารถทางภาษาสากลและนำภาษาสากลมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้
เพื่อพัฒนาสู่โรงเรียนมาตรฐานสากล
กลยุทธ์ของโรงเรียน
1.
พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับตามหลักสูตรและส่งเสริมความสามารถทางเทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้
2. ปลูกฝังคุณธรรม
ความสำนึกในความเป็นชาติไทย และวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
3. ขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง
และลดความเหลื่อมล้ำ ผู้เรียนได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ
4.
พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
5.
พัฒนาการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาล เน้นการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา
นอกจากแนวนโยบายและทิศทางการพัฒนาโรงเรียนที่โรงเรียนร่วมกับชุมชนได้ร่วมกันกำหนดขึ้นเพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาโรงเรียนแล้ว
ยังมีภารกิจที่โรงเรียนจะต้องสนองนโยบายสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ที่มอบหมายให้โรงเรียนในสังกัดถือปฏิบัติเพื่อให้เกิดการสอดรับกับกระทรวงศึกษาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และจังหวัดศรีสะเกษ อันได้แก่
การเป็นโรงเรียนที่ปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ นักเรียนลายมือสวย การปฏิรูปการศึกษา
โดยยึดคุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความสมานฉันท์
สันติวิธี วิถีประชาธิปไตย การขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานของประชากรวัยเรียนอย่างกว้างขวางและอย่างทั่วถึง การพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ
กระจายอำนาจ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชน ภาคเอกชนและท้องถิ่นในการจัดการศึกษา
จากนโยบายที่ได้กล่าวสรุปรวมมาทั้งหมดนี้
หากจะบริหารจัดการ
และขับเคลื่อนให้แนวนโยบายประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น
จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ
ร่วมแรงร่วมใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ มีทีมงานที่เข้มแข็ง ทุกฝ่ายตระหนักในหน้าที่ของตนเอง
มุ่งมั่นในการทำงานอย่างเต็มกำลัง
ในขณะเดียวกันในการปฏิบัติหน้าที่บริหารจัดการสถานศึกษา
บังคับบัญชาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
มักจะได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นข่าวในสื่อมวลชนอยู่เนือง
ๆ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาด้านการประพฤติปฏิบัติตนในการรักษาวินัยของข้าราชการ
ซึ่งแม้ว่าจะเป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับปริมาณของข้าราชการครูที่มีอยู่ทั่วประเทศ
แต่ข่าวสารที่ปรากฏย่อมส่งผลถึงเกียรติภูมิและชื่อเสียงของวงวิชาชีพครูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งประกอบกับสภาพสังคมที่คุณธรรม
จริยธรรมและการรักษาวินัยมีความย่อหย่อน
ปัญหาเศรษฐกิจ ความเบี่ยงเบนทางวัฒนธรรม ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ความขัดแย้งทางความคิด ฯลฯ ล้วนมีอิทธิพลส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการครูและบุคลากร
ทั้งในด้านการประพฤติตน การปฏิบัติหน้าที่การงานที่ต้องมีอุปสรรค
ปัญหาและสภาวะแวดล้อมของการจัดการศึกษา
กระทบถึงผู้เรียนและชุมชนอันเป็นผลผลิตของการจัดการศึกษา เป็นที่มาของคำถามที่ว่า
จะทำอย่างไรให้ครูและบุคลากรปฏิบัติงานตามภารกิจในการจัดการศึกษาของโรงเรียนจนเกิดความสำเร็จด้วยความพึงพอใจ
โรงเรียนถือเป็นองค์กรหนึ่ง
การดำเนินงานให้ลุล่วงไปได้
จะต้องอาศัยพลังความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งและร่วมแรงร่วมใจของบุคลากรทุกคนในองค์กร นั่นหมายถึง
โรงเรียนมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี
มีรูปแบบการทำงานและค่านิยม ที่เน้นความมุ่งมั่น ร่วมมือ ร่วมใจกัน การทำงานเป็นทีม
การมุ่งเน้นความมีคุณภาพ มาตรฐาน
วัฒนธรรมองค์กรเช่นนี้ ย่อมทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น
โรงเรียนประสบความสำเร็จก้าวหน้านำมาซึ่งความเชื่อถือ
ศรัทธาและความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับบุคลากรในโรงเรียน รวมทั้งผู้รับบริการ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนโดยรวม ซึ่งรูปแบบการทำงานและค่านิยมอาจกำหนดได้หลายลักษณะ
ในส่วนของข้าราชการครูจะมีมาตรฐานการปฏิบัติตน คือ
จรรยาบรรณของวิชาชีพ
ตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2548 ที่กำหนดขึ้นเป็นแบบแผนในการประพฤติตน
ให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ
ชื่อเสียง
และฐานะของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ผู้รับบริการและสังคมอันจะนำมาซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ
จากสภาพปัญหา
ความต้องการผนวกกับแนวคิดเพื่อการบรรลุผลของงาน
เป็นแรงจูงใจให้นำจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2548
มาเป็นกรอบในการปฏิบัติ
พัฒนาตนเองและบุคลากรในโรงเรียนโดยมีความเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ของการนำไปปฏิบัติ
เพราะ จรรยาบรรณวิชาชีพครู คือ กฎแห่งความประพฤติสำหรับสมาชิกวิชาชีพครู ซึ่งองค์กรวิชาชีพครูเป็นผู้กำหนด
และสมาชิกในวิชาชีพทุกคนต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากมีการละเมิด
จะมีการลงโทษ จรรยาบรรณวิชาชีพครู
มีลักษณะ 4 ประการที่ครอบคลุมส่งผลต่อผู้เกี่ยวข้อง คือ
1. เป็นคำมั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อผู้เรียน (Commitment
to the student)
2.
เป็นคำมั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อสังคม (Commitment to the society)
3.
เป็นคำมั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อวิชาชีพ (Commitment to the profession)
4.
เป็นคำมั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อสถานปฏิบัติงาน (Commitment to the employment
practice)
และยังเป็นประโยชน์ต่อครูและบุคลากรที่ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า
จรรยาบรรณวิชาชีพครูมีความสำคัญต่อวิชาชีพครูเช่นเดียวกับที่จรรยาบรรณวิชาชีพอื่นที่มีความสำคัญต่อวิชาชีพนั้น
ๆ ซึ่งคุณประโยชน์ในการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ สรุปได้ 3 ประการ คือ
1.
การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเป็นการปกป้องการปฏิบัติงานของสมาชิกในวิชาชีพ
2.
การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเป็นการรักษามาตรฐานวิชาชีพ
3.
การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเป็นการพัฒนาวิชาชีพ
แรงจูงใจที่สำคัญอีกประการหนึ่งของข้าพเจ้าก็คือ
ความต้องการในการสร้างเสริมคุณลักษณะความเป็นครูที่ดีให้เกิดแก่ครูและบุคลากร
ด้วยการใช้ภาวะผู้นำในการเป็นแบบอย่างที่ดี
โดยยึดหลักที่ว่า การเป็นแบบอย่างที่ดีจะเป็นเครื่องชักนำให้ผู้อื่นทำตาม
การที่ผู้บังคับบัญชาจะนำให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีวินัย
ตัวผู้บังคับบัญชาเองจะต้องทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีเสียก่อน รวมถึงการสร้างศรัทธา
ซึ่งความศรัทธาจะนำมาซึ่งขวัญ กำลังใจ มีความรัก ความร่วมมือร่วมใจ
หากผู้ใต้บังคับบัญชามีความศรัทธาต่อผู้บังคับบัญชา ต่องานที่ทำ ต่อสภาพแวดล้อมในการทำงาน
เขาก็จะทำงานอย่างมีความตั้งใจ มีความรับผิดชอบ
ร่วมมือประสานงานและปฏิบัติตามคำสั่งด้วยความเต็มใจ(สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา,
2541)
สำนักงานคุรุสภา
ผู้กำหนดข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2548
มีบทบาทในการควบคุม สอดส่องจรรยามรรยาทและวินัยของสมาชิกคุรุสภา
รวมทั้งสรรหาครูที่มีจรรยามรรยาทดีเด่น เพื่อรับ “เข็มคุรุสดุดี” มาตั้งแต่ปี
พ.ศ.2535 จนถึงปัจจุบันโดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อ
1.
ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ
2.
เพื่อเสริมสร้างศรัทธาและความเชื่อถือในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
3. เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ
“คุรุสดุดี” เป็นแบบอย่างที่ดีแก่
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา(สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา, 2555)
จึงเป็นแรงจูงใจที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่จะทำให้ผู้รับการยกย่องเชิดชูเชิดชูเกียรตินี้มีภาวะผู้นำด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี
งานมีประสิทธิภาพ สร้างศรัทธาให้แก่ครู บุคลากร ผู้ร่วมงาน
ชุมชนและสังคมโดยทั่วไปได้
วิธีดำเนินการจัดทำผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์
วิธีการในการปฏิบัติเพื่อให้เป็นผู้ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเป็นที่ประจักษ์ชัด
นั้น ข้าพเจ้าดำเนินการโดยมีกระบวนการ ขั้นตอนที่สำคัญ และการดำเนินการดังต่อไปนี้
การทบทวนการปฏิบัติของตนเอง
ข้าพเจ้าหมั่นสำรวจ
ตรวจสอบพฤติกรรมในการปฏิบัติตน
การปฏิบัติงานในบทบาทหน้าที่ที่ตนเองดูแล รับผิดชอบอยู่เสมอ
ในการประพฤติปฏิบัติตนก่อนหน้านี้ได้ใช้กรอบจรรยาบรรณครู พ.ศ.2539
เป็นแนวปฏิบัติและตรวจสอบ
ได้ใช้จรรยาบรรณครูนี้เป็นกรอบในการรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีของตนเองและข้าราชการครูในโรงเรียนปรางค์กู่ตลอดมา
เมื่อคณะกรรมการคุรุสภาออกข้อบังคับคุรุสภา
ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2548 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม พุทธศักราช 2548
ได้ทบทวนประเด็นเนื้อหาของจรรยาบรรณ
ที่แตกต่างไปจากเดิมเพื่อปรับแนวปฏิบัติและพฤติกรรมในการปฏิบัติตน การปฏิบัติงาน
ให้มีความสอดคล้องตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ จากการทบทวนการปฏิบัติของตนเอง
มีประโยชน์ต่อการพัฒนาการปฏิบัติตน ดังนี้
1.
จากการรายงานผลการปฏิบัติงานทำให้ทราบถึงลักษณะ
ความครอบคลุมในการปฏิบัติตนและการปฏิบัติงาน ว่ามีความสอดคล้อง
เป็นไปตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ หรือไม่
2. จากการทบทวนพฤติกรรมของตนเอง
ที่สะท้อนโดยครูและบุคลากรด้วยการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมในการปฏิบัติตนของผู้บริหาร
ทำให้ทราบถึงคุณภาพและความพึงพอใจในการปฏิบัติตนของผู้บริหาร
3.
จากการทบทวนประเด็นเนื้อหาของจรรยาบรรณของวิชาชีพ พุทธศักราช 2548
ทำให้รับทราบถึงการเปลี่ยนแปลง
การปรับปรุงรายละเอียดของเนื้อหาจรรยาบรรณอันจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาและปฏิบัติตนให้ดำรงอยู่ในจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างมั่นคงต่อไป
4. จากการทบทวนดังกล่าว
นำไปสู่การกำหนดทิศทางในการพัฒนาตนเองและบุคลากรอันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานที่ประสบความสำเร็จ
สร้างความศรัทธาและพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้อย่างชัดเจน
การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาตนเอง
จากการทำความเข้าใจในเรื่องการประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ข้าพเจ้าตระหนักอยู่เสมอว่า จรรยาบรรณมีประกาศิตบังคับในระดับ “พึง” คือ
พึงทำอย่างนั้น พึงปฏิบัติอย่างนี้ ซึ่งมีระบบการควบคุมลงโทษ
แต่ไม่เคร่งครัดหรือเข้มงวดมากนัก เน้นที่การสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายวิชาชีพ
จึงมีจุดมุ่งหมาย “เพื่อคนและงาน” โดยหวัง “ศักดิ์ศรี” ของผู้ประกอบวิชาชีพ และ
“ประสิทธิภาพของงาน” (สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา, 2541)
และจากการทบทวนการปฏิบัติ ของตนเองสะท้อนให้เห็นภาพของการปฏิบัติว่า
ยังมีส่วนใดที่บกพร่อง ต้องปรับปรุง ส่วนใดบ้างที่มีความเหมาะสม ควรได้รับการพัฒนา
และนำมากำหนดเป็นเป้าหมายในการพัฒนาตนเองเพื่อดำรงไว้ซึ่ง“ศักดิ์ศรี”
ของความเป็นครู และเพื่อ“ประสิทธิภาพของงาน”
ดังนี้
1.
เพื่อดำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของความเป็นครูด้วยการประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ
2.
เพื่อให้งานในความรับผิดชอบสามารถดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3.
เพื่อให้แบบแผนและผลของการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเป็นที่ยอมรับ
ได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีได้
การดำเนินการพัฒนาตนเอง
ในการพัฒนาตนเองเพื่อให้เป็นผู้ที่ปฏิบัติตนได้ตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเพื่อสนองเป้าหมายในการพัฒนาตนเอง
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติดังนี้
1.
สร้างความรู้ความเข้าใจในหลักปฏิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
พุทธศักราช 2548 เพื่อใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติตน
โดยนำสาระสำคัญของจรรยาบรรณ ทั้ง 9 ข้อ มากำหนดแนวปฏิบัติ แนวทางพัฒนา
ความคาดหวังจากการพัฒนาและพฤติกรรมที่แสดงออก รวมทั้งหลักฐาน ร่องรอยของการปฏิบัติ
2.
อบรมพัฒนาตนเองในด้านคุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในคุณธรรม
จริยธรรมสำคัญ อันได้แก่ คุณธรรมตามหลักธรรมของศาสนา การปฏิบัติศาสนกิจ การปฏิบัติตนในฐานะต่าง
ๆ ขนบธรรมเนียม ประเพณีปฏิบัติของสังคม
คุณธรรมตามแนวพระราชดำรัส ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถปฏิบัติตน
ให้คำแนะนำผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง
3. อบรมพัฒนาตนเองในด้านวินัย กฎหมาย
ระเบียบปฏิบัติที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจ ความตระหนักในการรักษาระเบียบ วินัย กฎหมาย ข้อบังคับ ข้อตกลง
กติกาของส่วนรวม ทั้งในระดับ หน่วยงาน ชุมชนและระดับสังคมทั่วไป สามารถปฏิบัติตน
ให้คำแนะนำผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง
4.
ศึกษาดูงานในโรงเรียนที่มีความโดดเด่นด้านคุณธรรม
การรักษาวินัยและการปฏิบัติตามจรรยาบรรณ เพื่อเรียนรู้การปฏิบัติ
ผลของการปฏิบัติตนในการเป็นแบบอย่าง หรือต้นแบบในด้านคุณธรรม
การรักษาวินัยและการปฏิบัติตามจรรยาบรรณ
สร้างแรงจูงใจและกำลังใจในการปฏิบัติตนและเป็นแบบอย่างได้เป็นอย่างดี
5. อบรมพัฒนาจิต การปฏิบัติธรรม ฝึกปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนา
เพื่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ ฝึกสมาธิ การรู้จักปล่อยวาง เป็นการสร้างเสริมพลังใจให้กับตนเองในการประพฤติปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบ
6.
พัฒนาตนเองเกี่ยวกับงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานในบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ
หรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เกิดประสิทธิภาพได้ และสามารถแนะนำ ให้การส่งเสริม
สนับสนุนเพื่อนร่วมงานให้สามารถปฏิบัติงานของโรงเรียนได้ตามบทบาทหน้าที่
ความรับผิดชอบ
7.
พัฒนาตนเองในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจและมีทักษะในการใช้วิทยาการ เทคโนโลยี
เพื่อการปฏิบัติงานและการเข้าถึงแหล่งความรู้ในการพัฒนาตนได้อย่างเหมาะสมตามยุคสมัย
ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง
8.
เข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงาน องค์กรภายนอกและงานของชุมชน
เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองและแสดงศักยภาพให้หน่วยงาน
องค์กรภายนอกและชุมชนได้ประจักษ์
เป็นการสร้างความศรัทธา ความเชื่อถืออีกทางหนึ่งด้วย
9. มีความจริงใจในการประพฤติ
ปฏิบัติตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพ
10.
หมั่นตรวจสอบการปฏิบัติตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพเพื่อการปรับและพัฒนาการปฏิบัติตนอย่างสม่ำเสมอ
การสะท้อนผลการพัฒนาและการปฏิบัติตน
จากการพัฒนาตนเอง
ดังที่กล่าวมา ข้าพเจ้าได้นำมาปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน
สามารถสะท้อนผลของการพัฒนาและการปฏิบัติ ที่ส่งผลต่อตนเอง ต่อวิชาชีพ
ต่อผู้รับบริการ ต่อผู้ร่วมวิชาชีพและต่อสังคม ดังนี้
จรรยาบรรณต่อตนเอง
1. มีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเอง ด้านวิชาชีพ
บุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองอยู่เสมอ
เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งการปฏิบัติราชการและการดำเนินชีวิตประจำวัน
เป็นแบบอย่างให้กับครู ผู้ร่วมงาน ประชาชนทั่วไปและนักเรียน ศึกษา ค้นคว้า ริเริ่ม
สร้างสรรค์ความรู้ใหม่ในการพัฒนาวิชาชีพ สนใจใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ รักการอ่านเพื่อนำความรู้ใหม่
ๆ มาใช้ในการปฏิบัติงาน มีผลงานด้านการเขียน
งานเขียนเพื่อการพัฒนาบุคลากรภายในโรงเรียน
มีผลงานที่แสดงถึงการพัฒนาความรู้และความคิดในวิชาชีพจนเป็นที่ยอมรับ ส่งเสริมการปฏิบัติงาน
โดยมีแผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมและใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน
จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
2. รัก ศรัทธา
ซื่อสัตย์สุจริตและรับผิดชอบต่อวิชาชีพ เป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ
เป็นสมาชิกและร่วมกิจกรรมกับชมรมวิชาการ
ชมรมวิชาชีพด้วยความเต็มใจ ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ร่วมวิชาชีพ
ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จในการปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ ปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจ มุ่งมั่น
ด้วยความซื่อตรง รับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างเคร่งครัด รักษาชื่อเสียงและปกป้องศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพครู
จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
3. รักเมตตาเอาใจใส่
ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กำลังใจแก่ศิษย์และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า
ปฏิบัติต่อนักเรียนทุกคนเสมือนลูกหลาน
ให้บริการประชาชน
ผู้มารับบริการอย่างเต็มใจเสมอภาคและมีคุณภาพโดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้รับบริการ
ส่งเสริมความภาคภูมิใจให้แก่ศิษย์และผู้รับ บริการด้วยการยกย่อง ชมเชย ให้กำลังใจ
ใช้กิจกรรมแนะแนวและระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในการให้ความช่วยเหลือนักเรียน
ทั้งด้านการเรียน ทุนการศึกษา ปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิต
ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนในความดูแลรับผิดชอบได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา
ให้ความเป็นกันเองกับผู้มารับบริการ
4. ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้
ทักษะและนิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ
ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
จัดหลักสูตร
กระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
นักเรียนที่มีความสามารถได้รับการส่งเสริมให้ได้เรียนรู้และมีเวทีในการแสดงออก จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์โดยรอบด้านให้กับนักเรียน
สนับสนุนให้ครูและบุคลากรจัดกิจกรรมพัฒนานักเรียนอย่างเต็มความสามารถ
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
5. ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
ทั้งทางกาย วาจาและจิตใจ
มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ
ศึกษา อบรมเพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรม จริยธรรม ความเป็นไทย
อ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ ใช้วาจาสุภาพอ่อนหวาน แต่งกายเหมาะสมกับกาลเทศะ ปฏิบัติธรรม ฟังธรรม ตามโอกาสอำนวย
6. ไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์หรือผู้รับบริการ
ไม่ใช้วาจาว่าร้าย
ดุด่าหรือสร้างความกระทบกระเทือนใจให้กับนักเรียน
สนับสนุนให้มีและใช้แหล่งเรียนรู้อย่างหลายหลายเพื่อพัฒนาด้านสติปัญญา
การเรียนรู้ของนักเรียนทุกคน
เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความรู้ ความสามารถ ความคิดเห็น
การแสดงออกอย่างสุนทรีย์และการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข
ไม่แสวงประโยชน์จากนักเรียนและผู้รับบริการ เคารพในความคิดเห็นของนักเรียน
จัดกิจกรรมส่งเสริมความเจริญเติบโตทางร่างกาย จัดเวลา
สถานที่และอุปกรณ์ให้ออกกำลังกาย นันทนาการ
7.
ให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ
ปฏิบัติงานเต็มเวลา
อุทิศตนเพื่อปฏิบัติงานนอกเวลาอยู่เสมอ ไม่แสวงประโยชน์จากนักเรียนและผู้รับบริการ
เป็นแกนนำและส่งเสริมการปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส
โดยใช้หลักธรรมาภิบาล ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริตตามระเบียบและแบบแผนของทางราชการ ส่งเสริมด้านจิตอาสาเพื่อรับใช้สังคม
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
8. พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม
สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ
บริหาร
จัดการเพื่อให้เกิดการพัฒนาทุกด้านต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิของผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
ใช้ระบบคุณธรรมในการพิจารณาความชอบ
มีความรัก
ความสามัคคีและร่วมใจกันผนึกกำลังในการพัฒนาการศึกษา มีแนวคิดในการบริหารที่เป็นรูปแบบเฉพาะของตนเอง
ปกป้องศักดิ์ศรี สิทธิของตนเองและเพื่อนร่วมวิชาชีพโดยการแสดงออกอย่างเปิดเผย แสดงให้เห็นถึงความรัก
ความสามัคคีอย่างจริงใจต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพ
จรรยาบรรณต่อสังคม
9.
พึงประพฤติปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจสังคม
ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม
รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมและยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด
ร่วมกิจกรรมในการปกป้องสถาบัน แนะนำความรู้สาขาต่าง ๆ ที่มีความรู้ความเข้าใจ
ทั้งให้บริการแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน ให้ชุมชนเข้ามาใช้บริการ เช่น ห้องสมุด
บริการอินเทอร์เน็ต ระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย
เป็นศูนย์กลางการศึกษาประวัติและวิถีชุมชน เป็นศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมในชุมชน
ส่งเสริมด้านจิตอาสาเพื่อรับใช้สังคมในรูปแบบที่หลากหลาย
โดยมีผลการปฏิบัติที่เด่นชัดส่งผลให้เป็นที่ยอมรับของนักเรียน
ผู้ร่วมงาน ผู้ปกครองและชุมชนและเป็นผลของการอุทิศตนเพื่อประโยชน์แก่วิชาชีพในด้านจรรยาบรรณต่อสังคม
ในแง่มุมต่าง ๆ จนได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลยกย่องชมเชยที่สำคัญ
เป็นประจักษ์พยานในความสำเร็จ ได้แก่
1. โรงเรียนปรางค์กู่
ได้รับคัดเลือกเป็นสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ประจำปีการศึกษา 2555
ตัวแทนระดับจังหวัดประเภทสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่
2.
การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติทั้งด้านการบริหารและการเรียนการสอน
ได้รับรางวัลสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
(สถานศึกษาพอเพียง) ประจำปี 2556
3. การรณรงค์ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ด้านกฎหมาย
ได้รับโล่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2
การแข่งขันตอบปัญหากฎหมาย เนื่องในวันรพี ประจำปี 2555 จาก
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ
4. โรงเรียนปรางค์กู่ได้รับโล่รางวัลชนะเลิศการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์
“วันรพีพัฒนศักดิ์ เชิดชูคุณูปการ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”
5. เป็นผู้มีจิตอาสา
ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ร่วมงานและนักเรียนมีจิตอาสา เพื่อดูแลรับใช้สังคมทุกรูปแบบ
ได้รับการยอมรับ ยกย่องและการขอบคุณจากหน่วยงานที่ร้องขอเป็นจำนวนมาก
ในรูปแบบโครงงานคุณธรรม
6. โรงเรียนปรางค์กู่ได้รับรางวัลชนะเลิศ
การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น รุ่นฟลายเวท เนื่องในการแข่งขันกีฬานักเรียน “สพม.28 เกมส์” ประจำปีการศึกษา 2555
7. โรงเรียนปรางค์กู่ได้รับรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชาย
เนื่องในการแข่งขันกีฬานักเรียน “สพท.28 เกมส์”
ประจำปีการศึกษา 2555
8. โรงเรียนปรางค์กู่ผ่านเกณฑ์การประเมินรับรองมาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
ระดับทอง
การประเมินการปฏิบัติตน
ในการประเมินผลการปฏิบัติตนในการดำรงตนตามกรอบข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
พุทธศักราช 2548 ข้าพเจ้าได้ดำเนินการดังนี้
1.
รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ประเมินด้วยการตรวจสอบ เทียบเคียงการปฏิบัติ
แนวทางพัฒนา ความคาดหวังจากการพัฒนาและพฤติกรรมที่แสดงออก รวมทั้งหลักฐาน
ร่องรอยของการปฏิบัติกับประเด็นรายละเอียดของจรรยาบรรณของวิชาชีพ
และการเขียนรายงานการปฏิบัติงานประจำปีการศึกษา
2.
การเสนอผลงานเพื่อรับการประเมินเพื่อรับการรับรอง ยกย่องชมเชย ในด้านการประพฤติปฏิบัติตนตามกรอบข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
พุทธศักราช 2548 กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคุรุสภาจังหวัด/เขตพื้นที่
และสำนักงานคุรุสภา ส่งผลให้ได้รับการยอมรับและให้ได้รับรางวัล เครื่องหมายเชิดชูเกียรติ
“คุรุสดุดี” ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเป็นที่ประจักษ์ ประจำปี
2555
ผลที่เกิดขึ้นจากการนำผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ไปใช้
จากความสำเร็จของการที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพจนเป็นที่ประจักษ์และได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ
“คุรุสดุดี” ในครั้งนี้
ได้นำมาใช้ในการพัฒนาด้วยการเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติตน ส่งเสริมสนับสนุน
พัฒนาบุคคลโดยรอบข้างให้ปฏิบัติตามจนเกิดผล ดังนี้
ผลที่เกิดกับนักเรียน
1. นักเรียนโรงเรียนปรางค์กู่ทุกคนได้รับการพัฒนาในด้าน
คุณธรรม จริยธรรม ผ่านการจัดกิจกรรมโครงงานคุณธรรมจริยธรรมทั้งระบบทุกระดับชั้น
2.
นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร ได้แก่ สามารถปฏิบัติตนและแสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์
มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย
มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการปฏิบัติตน
มีความรักและความมุ่งมั่นในการทำงาน
รักความเป็นไทย
รวมทั้งแสดงออกถึงความมีจิตอาสา จิตสาธารณะในการเข้าดูแลรับใช้สังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
3. นักเรียนมีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์
และมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมเขตพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละ ชั้นเรียน
4. นักเรียนมีผลการประเมินคุณภาพภายนอก
ตัวบ่งชี้ที่ 2 ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์
ในการเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่หรือผู้ปกครอง การเป็นนักเรียนที่ดีของโรงเรียน
และการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ในระดับ ดีมากทุกตัวบ่งชี้
5. นักเรียนมีความเชื่อมั่นในตัวเอง
มีภาวะผู้นำ กล้าแสดงออก
สามารถเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการทำกิจกรรมร่วมกับภายนอกได้อย่างเหมาะสม
6.
นักเรียนได้รับการยอมรับ ยกย่องชมเชย ประกาศเกียรติคุณจากภายนอก เช่น โล่รางวัลเยาวชนผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ
รางวัลนักเรียนผู้มีคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น
รางวัลเหรียญทองจากการประกวดแข่งขันด้านวิชาการในงานศิลปะหัตกรรมนักเรียนระดับภาค เป็นต้น
ผลที่เกิดกับครูและบุคลากร
1.
ครูและบุคลากรในโรงเรียนได้รับการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม
แบบแผนการปฏิบัติตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพ ผ่านการประชุม อบรม การนิเทศภายใน
สัมมนา ศึกษาดูงาน กิจกรรม ยกย่อง
เชิดชูเกียรติคุณอย่างต่อเนื่อง
2. ครูและบุคลากรมีความศรัทธาในวิชาชีพ
มีความทัศนคติที่ดี มีความรัก ความผูกพันกับโรงเรียน
มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน มีขวัญกำลังในที่ดีและพึงพอใจในการปฏิบัติงาน
3.
ครูและบุคลากรมีความก้าวหน้าในวิชาชีพมีการศึกษาเพิ่มพูนวุฒิทางการศึกษา
มีวิทยฐานะที่สูงขึ้น
5. ครูได้รับการยอมรับ
ยกย่องชมเชย ประกาศเกียรติคุณจากภายนอก เช่น รางวัลหนึ่งแสครูดี รางวัลคุรุสดุดี และรางวัลครูสอนดี ดังนี้
- นางสาวอุบล ขาวสะอาด ได้รับรางวัล
เครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี” ประจำปี 2556
- นายบุญถึง ต้นงาม
ได้รับรางวัล “ครูสอนดี” ประจำปี 2556
- นายสถิตย์ รชตธำมรงค์ ได้รับรางวัล
เครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี” ประจำปี 2557
ผลที่เกิดกับโรงเรียน
1. โรงเรียนนำจรรยาบรรณของวิชาชีพมาใช้เป็นค่านิยม
วัฒนธรรมในการทำงานขององค์กร
2.
โรงเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่ มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด เป็นระเบียบ ร่วมรื่น
ปลอดภัย เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียน
3. เป็นสถานที่ศึกษาดูงาน
กิจกรรมที่ประสบความสำเร็จของโรงเรียนอันเนื่องมาจากความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน
ได้รับการยอมรับและเป็นแบบอย่างที่ดี
4. โรงเรียนได้รับการยอมรับ
ยกย่องชมเชย ประกาศเกียรติคุณจากภายนอก ดังนี้
-
โรงเรียนปรางค์กู่ ได้รับคัดเลือกเป็นสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ระดับการศึกษาขั้น
พื้นฐาน
ประจำปีการศึกษา 2555
ตัวแทนระดับจังหวัดประเภทสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่
-
การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติทั้งด้านการบริหารและการเรียนการสอน
ได้รับรางวัลสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
(สถานศึกษาพอเพียง) ประจำปี 2556
- การรณรงค์
ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ด้านกฎหมาย ได้รับโล่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การแข่งขันตอบปัญหากฎหมาย เนื่องในวันรพี ประจำปี 2555 จาก
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด ศรีสะเกษ
-
โรงเรียนปรางค์กู่ได้รับโล่รางวัลชนะเลิศการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์
“วันรพีพัฒนศักดิ์ เชิดชูคุณูปการ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”
- เป็นผู้มีจิตอาสา
ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ร่วมงานและนักเรียนมีจิตอาสา เพื่อดูแลรับใช้สังคมทุกรูปแบบ
ได้รับการยอมรับ ยกย่องและการขอบคุณจากหน่วยงานที่ร้องขอเป็นจำนวนมาก ในรูปแบบโครงงานคุณธรรม
-
โรงเรียนปรางค์กู่ได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น รุ่นฟลายเวท
เนื่องในการแข่งขันกีฬานักเรียน “สพม.28 เกมส์”
ประจำปีการศึกษา 2555
- โรงเรียนปรางค์กู่ได้รับรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชาย
เนื่องในการแข่งขันกีฬานักเรียน “สพท.28 เกมส์”
ประจำปีการศึกษา 2555
- โรงเรียนปรางค์กู่ผ่านเกณฑ์การประเมินรับรองมาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
ระดับทอง
ผลที่เกิดกับชุมชน
1. ชุมชนเกิดความศรัทธาในตัวผู้บริหาร
ครูและโรงเรียนส่งผลถึงความร่วมมือที่ดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชนในการพัฒนาการจัดการศึกษาให้กับประชาชนในชุมชน
2. ชุมชนเข้ามาใช้อาคาร สถานที่
สิ่งอำนวยความสะดวกของโรงเรียนในการจัดกิจกรรมร่วมกัน
3. ชุมชนใช้โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ การเข้าถึงข้อมูล
องค์ความรู้ด้วยระบบอินเทอร์เน็ต และการขอรับคำปรึกษาด้านวิชาการ
ข้อเสนอแนะในการพัฒนาชุมชนในด้านต่าง ๆ
4. แบบอย่างการปฏิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพทำให้บุคคลในชุมชนได้รับการยกย่องชมเชย
จากภายนอก เช่น รางวัลบุคคลที่มีคุณงามความดี
รางวัลปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น รางวัลครอบครัวตัวอย่างที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต
เป็นต้น
ผลที่เกิดกับสังคมและประเทศชาติ
1. เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตนให้กับผู้ประกอบวิชาชีพครูด้วยนำเสนอผลการปฏิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพเผยแพร่ในหนังสือคุรุสดุดี
ผู้ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ประจำปี 2555
2. ผู้บริหารเป็นวิทยากรให้ความรู้ในการพัฒนาผู้บริหาร
ครูและบุคลากรสายงานการสอน เช่น การอบรมพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา การอบรมครูบรรจุใหม่ การอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือประเภทต่าง ๆ
3.
เป็นสถานที่ศึกษาดูงานของผู้บริหาร ครูและบุคลากรทั้งในและต่างเขตพื้นที่
แนวคิดในการพัฒนาต่อไป
การพัฒนาการปฏิบัติตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพเพื่อ
“ศักดิ์ศรี”ของความเป็นครูและ
การพัฒนาผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพที่ส่งผลถึง“ประสิทธิภาพของงาน” เป็นสิ่งที่ต้องกระทำควบคู่กัน
โดยมีแนวในการดำเนินการ ดังนี้
1. จัดทำแบบแผนการปฏิบัติตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ด้วยความร่วมมือของครูและบุคลากรเพื่อเป็นคู่มือการปฏิบัติตนตามกรอบจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่
2.
ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรใช้จรรยาบรรณของวิชาชีพ
เป็นกรอบในการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และมีการยกย่อง ชมเชย
ผู้ที่ตั้งมั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพให้เป็นที่ปรากฏต่อสังคมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับโรงเรียน
ขึ้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น